วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

วิธีการหาความเชื่อมั่น(Reliability) ของเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย

การหาความเชื่อมั่นด้วยวิธีหาสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach alpha coefficient)
             การหาความเชื่อมั่นของทดสอบแบบอัตนัย ที่ให้คะแนนไม่เป็น 1 กับ 0 แต่อาจจะให้คะแนนข้อละ 5 คะแนน หรือ ข้อละ 10 คะแนน หรือ อาจเป็นอย่างอื่น จะใช้สูตรของคอร์นบัค (Cronbach) หรือ สัมประสิทธิ์แอลฟา (a- Coefficient) ดังนี้

ตัวอย่าง 9.13 จงหาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบแบบอัตนัย จำนวน 10 ข้อให้คะแนนเต็มข้อละ 5 คะแนน สอบนักเรียน 10 คน ได้คะแนนดังผลตารางข้างล่างนี้












การหาค่าความเชื่อมั่นตามวิธีของบุญเชิด  ภิญโญอนันตพงษ์
บุญเชิด  ภิญโญอนันตพงษ์  ได้เสนอวิธีการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบแบบอิงเกณฑ์ โดยการหาสัมประสิทธิ์ของความสอดคล้องในการตัดสินความรอบรู้จากการแบ่งครึ่งแบบทดสอบ  แล้วปรับขยายความเชื่อมั่นให้เต็มฉบับ  โดยใช้สูตรสเปียร์แมนบราวน์  แต่ต้องแบ่งครึ่งคะแนนของแต่ละคนออกเป็น 2 ส่วนและคะแนนเกณฑ์ก็ต้องแบ่งครึ่งเช่นเดียวกัน  สามารถเขียนเป็นสูตรได้ดังนี้
        แทนสัดส่วนของความสอดคล้องในการตัดสินความรอบรู้จากแบบทดสอบที่แบ่งครึ่ง
         
แทนสัดส่วนของความสอดคล้องในการตัดสินความรอบรู้ที่ปรับขยายให้เต็มฉบับ

 ตัวอย่างการคำนวณ

สมมติว่านำแบบทดสอบอิงเกณฑ์  จำนวน 10 ข้อ ไปสอบกับนักเรียน 10 คน โดยมีคะแนนเกณฑ์เป็น 8 คะแนน  หลังจากแบ่งครึ่งแบบทดสอบแล้วใช้คะแนนเกณฑ์ครึ่งหนึ่งของฉบับ คือ 4 คะแนน  แล้วปรากฏผลการตัดสินผู้สอบผ่าน - ไม่ผ่าน  แต่ละครึ่งฉบับนั้น ดังนี้
 
 

ข้อคู่

 
 
ผ่าน
ไม่ผ่าน
                    ข้อคี่

ผ่าน

3
2
ไม่ผ่าน
2
3

 วิธีคำนวณ
ขั้นที่1 หาค่า       
ขั้นที่ 2 หาค่า
ขั้นที่ 3 ปรับขยายความเชื่อมั่นเต็มฉบับโดยใช้สูตรสเปียร์แมนบราวน์
 
                       
ดังนั้นความเชื่อมั่นทั้งฉบับ  หรือสัมประสิทธิ์ของความสอดคล้องในการตัดสินความรอบรู้เท่ากับ 0.75


ารหาความเชื่อมั่นแบบแบ่งครึ่งแบบทดสอบ (Split - half reliability)
             เป็นการหาความเชื่อมั่น ของความสอดคล้องภายในของแบบทดสอบ วิธีนี้มีข้อดีตรงที่สามารถป้องกันความคลาดเคลื่อนจากการวัดได้ เช่น ความแตกต่างในเวลาสอบ ที่เกิดขึ้นกับการสอบแบบสอบซ้ำ เป็นต้น นอกจากนี้วิธีนี้ยังเหมาะสำหรับแบบทดสอบที่มีความยาวมาก ๆ ด้วย
ขั้นตอนในการหาความเชื่อมั่นแบบแบ่งครึ่งแบบทดสอบ มีดังนี้
        1. แบ่งครึ่งแบบทดสอบ หรือ แบ่งเป็นแบบทดสอบฉบับย่อย ๆ เช่น การแบ่งครึ่งฉบับ การแบ่งเป็นข้อคี่ - ข้อคู่ เป็นต้น
        2. ตรวจให้คะแนน โดยแบ่งคะแนนเป็น 2 ชุด ตามวิธีการแบ่งในข้อ 1
        3. หาความสัมพันธ์ของคะแนนทั้ง 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
        4. สรุปผลความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ถ้าค่าสัมประสิทธิ์สูงแสดงว่าแบบทดสอบนั้นมีความเชื่อมั่นสูง
สำหรับวิธีการแบ่งแบบทดสอบนั้น มีหลายวิธีที่นิยมมากที่สุด คือ ข้อคี่ - ข้อคู่
วิธีการแบ่งมีดังนี้ (สมมุติว่าข้อสอบมี 20 ข้อ ) คือ
ฉบับที่ 1 คือ ข้อคี่ได้แก่ 1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17 และ 19
ฉบับที่ 2 คือ ข้อคู่ ได้แก่ 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18 และ 20
โดยฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 วัดเนื้อหาเดียวกัน และ มีความยากง่ายใกล้เคียงกัน
ถ้าต้องการแบ่งครึ่งข้อสอบ โดยฉบับที่ 1 คือ ข้อ 1 - 10 ฉบับที่ 2 คือข้อ11 - 20 ข้อสอบข้อ 1 - 10 และ ข้อสอบ 11 - 20 ต้องวัดเนื้อหาเดียวกัน และยากง่ายใกล้เคียงกัน แต่ถ้าข้อสอบข้อ 1-10 เป็นข้อสอบเกี่ยวกับเศษส่วนทั้งหมด ส่วนข้อ 1 -20 เป็นข้อสอบเกี่ยวกับทศนิยมทั้งหมด ดังนั้นจะแบ่งโดยวิธีแบ่งครึ่งข้อสอบไม่ได้เนื่องจากแบบทดสอบที่มีจำนวนข้อสอบมาก ๆ แนวโน้มค่าความเชื่อมั่นจะสูง การแบ่งครึ่งข้อสอบ เป็นเพียงการหาความเชื่อมั่นเพียงครึ่งฉบับเท่านั้น จึงต้องมีการปรับแก้ค่าความเชื่อมั่นใหม่ โดยใช้สูตรของสเปียร์แมน บราวน์ (Spearman-Brown) ดังนี้   
(Gay, 1990 : 139)
 
ารหาความเชื่อมั่นแบบแบ่งครึ่งแบบทดสอบ (Split - half reliability)
             เป็นการหาความเชื่อมั่น ของความสอดคล้องภายในของแบบทดสอบ วิธีนี้มีข้อดีตรงที่สามารถป้องกันความคลาดเคลื่อนจากการวัดได้ เช่น ความแตกต่างในเวลาสอบ ที่เกิดขึ้นกับการสอบแบบสอบซ้ำ เป็นต้น นอกจากนี้วิธีนี้ยังเหมาะสำหรับแบบทดสอบที่มีความยาวมาก ๆ ด้วย
ขั้นตอนในการหาความเชื่อมั่นแบบแบ่งครึ่งแบบทดสอบ มีดังนี้
        1. แบ่งครึ่งแบบทดสอบ หรือ แบ่งเป็นแบบทดสอบฉบับย่อย ๆ เช่น การแบ่งครึ่งฉบับ การแบ่งเป็นข้อคี่ - ข้อคู่ เป็นต้น
        2. ตรวจให้คะแนน โดยแบ่งคะแนนเป็น 2 ชุด ตามวิธีการแบ่งในข้อ 1
        3. หาความสัมพันธ์ของคะแนนทั้ง 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
        4. สรุปผลความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ถ้าค่าสัมประสิทธิ์สูงแสดงว่าแบบทดสอบนั้นมีความเชื่อมั่นสูง
สำหรับวิธีการแบ่งแบบทดสอบนั้น มีหลายวิธีที่นิยมมากที่สุด คือ ข้อคี่ - ข้อคู่
วิธีการแบ่งมีดังนี้ (สมมุติว่าข้อสอบมี 20 ข้อ ) คือ
ฉบับที่ 1 คือ ข้อคี่ได้แก่ 1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17 และ 19
ฉบับที่ 2 คือ ข้อคู่ ได้แก่ 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18 และ 20
โดยฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 วัดเนื้อหาเดียวกัน และ มีความยากง่ายใกล้เคียงกัน
ถ้าต้องการแบ่งครึ่งข้อสอบ โดยฉบับที่ 1 คือ ข้อ 1 - 10 ฉบับที่ 2 คือข้อ11 - 20 ข้อสอบข้อ 1 - 10 และ ข้อสอบ 11 - 20 ต้องวัดเนื้อหาเดียวกัน และยากง่ายใกล้เคียงกัน แต่ถ้าข้อสอบข้อ 1-10 เป็นข้อสอบเกี่ยวกับเศษส่วนทั้งหมด ส่วนข้อ 1 -20 เป็นข้อสอบเกี่ยวกับทศนิยมทั้งหมด ดังนั้นจะแบ่งโดยวิธีแบ่งครึ่งข้อสอบไม่ได้เนื่องจากแบบทดสอบที่มีจำนวนข้อสอบมาก ๆ แนวโน้มค่าความเชื่อมั่นจะสูง การแบ่งครึ่งข้อสอบ เป็นเพียงการหาความเชื่อมั่นเพียงครึ่งฉบับเท่านั้น จึงต้องมีการปรับแก้ค่าความเชื่อมั่นใหม่ โดยใช้สูตรของสเปียร์แมน บราวน์ (Spearman-Brown) ดังนี้   
(Gay, 1990 : 139)




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น